ท่านลอร์ดจอมฉาว! ย้อนรอย 3 พฤติกรรมฉาวของท่านลอร์ด เบนท์เนอร์
ท่านลอร์ดจอมฉาว! สำหรับนักฟุตบอลแล้วนั้น อายุ 33 ปีอาจจะเป็นอายุที่เร็วไปนิดหน่อยสำหรับการเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะไปแขวนสตั๊ดกันตอนอายุ 35 ปีขึ้นไป แต่สำหรับ นิคลาส เบนท์เนอร์ อดีตกองหน้าชาวเดนมาร์กของ อาร์เซน่อล แล้วนั้น มันคงถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าเขาไม่เคยมีต้นสังกัดเป็นจริงเป็นจังอีกเลย นับตั้งแต่ที่แยกทางกับ โคเปนเฮเก้น ทีมในบ้านเกิดเมื่อปี 2019
นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายพอตัวที่เส้นทางการค้าแข้งของ เบนท์เนอร์ จบลงแบบไม่สวยหรู สมัยที่ยังเป็นเด็กนั้นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากคนหนึ่งจน อาร์เซน่อล ถึงขั้นดึงมาปลุกปั้นในอะคาเดมี่ของทีมในปี 2004 ก่อนที่จะให้โอกาสเขาได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2005 แต่สุดท้าย เบนท์เนอร์ ก็ไม่สามารถพัฒนาให้ตัวเองก้าวจากการเป็นดาวรุ่งที่ดีไปเป็นนักเตะชั้นยอดตามที่หลายคนคาดหวังได้
ยิ่งไปกว่านั้น เบนท์เนอร์ ยังเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมากจนเกินเหตุและเคยออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงโอ้อวดอยู่บางครั้งด้วย ซึ่งนั่นก็นำไปสู่การที่แฟนบอลตั้งฉายาแบบประชดให้เขาว่า “ท่านลอร์ด” และเรื่องดังกล่าวก็กลายเป็นภาพลักษณ์ติดตัวเขาจนแฟนบอลไม่ได้สนใจเรื่องผลงานในสนามของเขามากเท่าไหร่นัก
ทั้งนี้ นอกจากความมั่นใจในตัวเองที่สูงทะลุขีดจำกัดแล้วนั้น เบนท์เนอร์ ยังเคยก่อพฤติกรรมฉาวที่เป็นประเด็นร้อนอยู่หลายครั้งด้วย และวันนี้เราจะมานั่งไทม์แมชชีนย้อนความหลังถึงพฤติกรรมเหล่านั้นของท่านลอร์ดกัน
– เมาแอ๋แถมผิดเวลา
ฤดูกาล 2008-09 อาร์เซน่อล มีผลงานที่โดดเด่นในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาสามารถทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิศได้จากการที่ผ่าน อาแอส โรม่า ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และ บียาร์เรอัล ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่พวกเขาก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันเมื่อแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบตัดเชือกด้วยสกอร์รวม 2 นัด 1-4 ประกอบด้วยการแพ้ 0-1 ในนัดแรก และการปราชัย 1-3 คารัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในนัดสอง
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ลูกทีมหลายคนของ อาร์แซน เวนเกอร์ กำลังหดหู่จากการตกรอบนั้น เบนท์เนอร์ กลับตรงดิ่งไปที่ผับแห่งหนึ่งในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังจบเกมรอบรองชนะเลิศ นัดสอง พร้อมกับปาร์ตี้อย่างสนุกสุดเหวี่ยง โดยที่จริงในเกมนั้นเขามีชื่อเป็นตัวสำรองและถูกส่งลงไปเล่นในช่วงนาทีที่ 63 ด้วย
หากถามว่าเขาปาร์ตี้หนักแค่ไหน ก็ต้องบอกเลยว่าคืนนั้นเขาออกมาจากไนต์คลับในสภาพที่กางเกงพร้อมจะหล่นลงมาถึงเท้าทุกเมื่อ ร้อนจนทีมงานต้องพยายามมาช่วยพาเขาออกจากไนต์คลับเพื่อไม่ให้สื่อเห็น แต่มันก็ยังมีคนจับภาพได้อยู่ดี และสุดท้ายหลังจากนั้นเขาก็ต้องออกมาขอโทษขอโพยกับพฤติกรรมของตัวเอง
– ชักอวัยวะเพศใส่แท็กซี่
ตอนเดือนมีนาคม ปี 2014 อาร์เซน่อล มีคิวลงเล่นเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิค เพียงแต่ตอนนั้น เบนท์เนอร์ ไม่มีชื่อติดทีม เพราะนั่นเป็นช่วงที่เขาแทบหมดอนาคตกับ “ไอ้ปืนใหญ่” แล้ว เขาเลยไปอยู่ที่ โคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก บ้านเกิดของตัวเอง
ถึงกระนั้น สุดท้ายเขาก็ยังก่อเรื่องงามหน้าจนได้เมื่อสื่อของแดนโคนมประโคมข่าวว่า เบนท์เนอร์ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนขับรถแท็กซี่เพราะตอนนั้นเขากับเพื่อนๆ ขึ้นไปใช้บริการในสภาพที่เมาแบบสิ้นสภาพ จนทำให้คนขับบอกให้ทั้งหมดลงจากรถ โดยเรื่องดังกล่าวทำให้ เบนท์เนอร์ เดือดจัดจนด่าคนขับรถแท็กซี่ไปหลายแบบ
แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะในช่วงดังกล่าว เบนท์เนอร์ ปลดซิปถอดกางเกงของตัวเอง พร้อมกับเอาอวัยวะเพศของตัวเองไปถูกับรถแท็กซี่ซะอย่างนั้น แถมยังเอาเข็มขัดฟาดรถของคู่กรณีอีกต่างหาก ยังดีที่ตอนเกิดเหตุมันไม่มีคนอยู่ในเหตุการณ์มากนัก ทำให้ไม่มีใครถ่ายภาพชอตดังกล่าวมาได้ ไม่อย่างนั้นมันอาจจะเป็นภาพที่ทำให้หลายคนฝันร้ายไปอีกนานเลย
– อาละวาดเพราะพิซซ่า
มันไม่แปลกที่บางคนจะอยากกินพิซซ่า เพียงแต่สิ่งที่ เบนท์เนอร์ ทำในกรุงโคเปนเฮเก้นเมื่อตอนปี 2011 นั้น เป็นพฤติกรรมที่หลายคนรับไม่ได้ โดยตอนแรกเขาเดินเข้าไปในร้านพิซซ่าในสภาพเมาจัดหลังจากเพิ่งเที่ยวราตรีมาอย่างสนุกสุดเหวี่ยง พร้อมกับซื้อพิซซ่าชิ้นเล็กๆ หนึ่งชิ้นโดยที่ขอจ่ายผ่านบัตรเครดิตการ์ด
อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นบัตรเครดิตการ์ดของเขามันใช้ไม่ได้แล้ว และพอทีมงานบอกว่าขายพิซซ่าให้เขาไม่ได้แล้วนั้น เบนท์เนอร์ ก็ตะโกนด้วยความเดือดดาลสุดขีด อย่างเช่นการบอกว่า “แกไม่รู้เหรอวะว่าฉันเป็นใคร ? คนอย่างฉันน่ะจะซื้อร้านพิซซ่านี้ทั้งร้านก็ยังได้นะโว้ย!”
ท้ายที่สุดแล้วความวุ่นวายก็จบลงเมื่อคนที่อยู่ในร้านเสนอตัวที่จะเข้ามาจ่ายค่าพิซซ่าแทน เบนท์เนอร์ ทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี
- ติดตามทุกข่าวสารของวงการกีฬาที่นี่ : ufabetschool.com
- ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก : www.siamsport.co.th